อากาศร้อนขนาดนี้ หลายคนคงอยากได้แอร์มาติดไว้ที่บ้านจะได้เปิดให้เย็นฉ่ำไปเลย แต่ .. แอร์ก็มีเยอะมากมายหลายแบบเหลือเกิน จะติดแบบไหนดีนะ?? ไม่ต้องห่วง วันนี้ "ร้านกฤษฎาแอร์" จะมาแนะนำการเลือกซื้อแอร์ให้เหมาะกับการใช้งาน


1. เลือกประเภทเครื่องปรับอากาศ (แอร์) ให้เหมาะกับสถานที่ และการใช้งาน 

สำหรับเครื่องปรับอากาศก็มีมากมายให้เลือกซื้อ แต่ละแบบก็มีคุณสมบัติแตกต่างกัน หากเลือกไม่เหมาะกับการใช้งานอาจส่งผลเสียต่อเครื่องปรับอากาศ และเปลืองพลังงานอีกด้วย โดยที่เครื่องปรับอากาศ จะแบบออกเป็น  4 ประเภท คือ

แอร์ติดผนัง มีฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลาย  รูปแบบการออกแบบสวยงาม ดีไซน์ทันสมัย  และ มีขนาดพอเหมาะ และยังช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย ดูแลรักษาได้ง่าย  เหมาะกับห้องขนาดเล็ก ติดตามบ้านหรือคอนโดทั่วไป

แอร์ฝังในฝ้า เป็นแอร์ที่ติดเข้าไปในฝ้าเพดาน ไม่ว่าจะเป็น ตัวเครื่องแอร์ ท่อน้ำทิ้ง และท่อน้ำยา เหมาะสำหรับห้องที่เน้นเรื่องความสวยงาม เมื่อติดแล้วจะไม่ค่อยเห็นตัวเครื่องของแอร์ แต่มีราคาค่อนข้างสูงกว่าแอร์ประเภทอื่น

แอร์แขวนใต้ฝ้า จะเป็นแอร์ที่ติดตั้งใต้ฝ้าเพดาน ซึ่งมีการกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง และการใช้งานทนทาน  เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง และมีผู้คนอยู่เยอะ เช่น อาคารสำนักงาน  ร้านค้า 

แอร์ตู้ตั้งพื้น เป็นแอร์อีกหนึ่งชนิดที่มีการกระจายความเย็นได้ทั่วถึง และมีการใช้งานที่ทนทาน รวมไปถึงทนต่อฝุ่นควันอีกด้วย โดยลักษณะของแอร์จะเป็นแบบติดตั้งบนพื้น เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดใหญ่  โรงงาน และ มีผู้คนหนาแน่น  ซึ่งแอร์ประเภทนี้ จะเปลืองพลังงานกว่าแอร์ประเภทอื่น

 

2. เลือกขนาดให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละห้อง 

สำหรับการเลือกซื้อแอร์นั้น อีกสิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือ ขนาดของห้อง  เพราะเมื่อเราทราบขนาดของห้องที่ชัดเจน จะทำให้ง่ายต่อการเลือกขนาดของแอร์ และ การคิดค่า BTU  เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานและช่วยประหยัดพลังงานอีกด้วย

 BTU  คือ ขนาดทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ  โดยย่อมาจากคำว่า British Thermal Unit   ซึ่ง  1 ตันความเย็น จะเท่ากับ 12000 BTU ต่อชั่วโมง  ฉะนั้นการเลือก BTU ย่อมมีความสำคัญ เพราะจะเกี่ยวเนื่องกับการประหยัดพลังและอายุการใช้งานของแอร์

แอร์ที่มี BTU สูงเกินไป จะทำให้การทำงานของคอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย เนื่องจากมีการทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง  และยังส่งผลให้ความชื้นภายในห้องสูง อาจทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยป่วยหรือไม่สบายได้ อีกทั้งยังทำให้เปลืองพลังงานอีกด้วย

แอร์ที่มี BTU ต่ำเกินไป จะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานตลอดเวลาและหนักจนเกินไป  เพราะอุณหภูมิความเย็นไม่ตรงตามที่ตั้งหรือกำหนดไว้  ซึ่งจะส่งผลทำให้แอร์เสียง่าย และ เปลืองพลังงาน

วิธีการคำนวน BTU และขนาดห้อง คลิกเลย

 

3. เลือกแบบประหยัดพลังงาน

สำหรับการเลือกซื้อแอร์ แนะนำว่าควรเลือกสินค้าที่ได้รับฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5  เพราะนั้นหมายถึง คุณภาพในการใช้พลังงานที่คุ้มค่าที่สุด  ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานและประหยัดค่าใช้จ่ายได้

 

4. เลือกและเปรียบเทียบคุณสมบัติต่าง ๆ

แอร์หรือเครื่องปรับอากาศนั้นมีให้เลือกหลายแบบ หลายประเภท รวมไปถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ด้วย เช่น เทคโนโลยีการฟอกอากาศ,  เทคโนโลยีควบคุมความเย็นอัตโนมัติ  เป็นต้น

 

โดยก่อนที่จะซื้อแอร์สักเครื่องนั้น ควรมีการเปรียบเทียบ รุ่น  ยี่ห้อ คุณสมบัติพิเศษ และ เทคโนโลยี ต่าง ๆ ก่อน  เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด และคุ้มค่า แต่ต้องคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก



 



"ร้านกฤษฎาแอร์"
บริการดูแลแอร์บ้าน แอร์สำนักงานครบวงจร โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี
0816556408  :KRISDAAIR  : krisda-air [QRcode]